วันพุธที่ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2564

แนะนำตัว

     โพสต์นี้จะเป็นโพสต์แรกสำหรับการเขียนบล๊อคของผมปกติผมมักจะเขียนข้อความยาวๆในลักษณะบทความพร้อมภาพประกอบและโพสต์ลงในเฟสบุ๊คสาเหตุที่ทำแบบนั้นเพราะไม่ต้องการให้มือของตัวเองนั้นเหงาเกินไป หรือเป็นการซ้อมมือ ไว้สำหรับตอนเขียนดุษฎีนิพนธ์ ในระดับ Ph.d 

       ขออนุญาติแนะนำตัวครับ ผมชื่อ ณ กาล ธนชิต ชื่อเล่น จอม บางคนจำสลับกันว่าชื่อจริง คือ จอม แล้วชื่อเล่น คือ  ณ กาล ก็มีเหมือนกันนะ  เกิดปี มะเส็ง 30 กันยายน

   นิสัยส่วนตัวตอนเด็กๆเป็นคนเงียบ ๆ ซึ่งจะต่างจากตอนโต   บางครั้งก็มีความตรงไปตรงมาสูงเกินไป  เรียบง่ายและไม่มีพิธีการอะไรมาก บางครั้งก็มักจะห่วงเรื่องของคนอื่นจนลืมเรื่องของตัวเอง แอบขี้โมโหเป็นบางครั้งนะครับ  

    สมัยเด็กๆไม่ชอบการอ่าน การเขียนเท่าไหร่นะครับถนัดแต่เล่นมากกว่า  จนลืมเวลา ตกรถโรงเรียนก็มีหลายๆครั้งนะครับ  

      ถามว่านิสัย อ่านๆ เขียนๆของผมมันมาได้ยังไง คำตอบก็คือตั้งแต่เริ่มเข้ามหาวิยาลัย เรียนปริญญาตรีที่วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยาลัยรังสิต นั่นแหละครับ คณะที่ผมเรียนใช้ข้อสอบที่เป็นข้อเขียน หรือ อัตนัย ไม่มีข้อสอบแบบ ก ข ค ง เน้นการแสดงความเป็นแต่ต้องอยู่ในกรอบของทฤษฎี คำถามหนึ่งบรรทัด เขียนตอบมันสักสิบหน้าให้อาจารยอ่านกันตาแตกไปเลยครับ  ก็เลยเป็นคนเขียนเยอะมาก ซึ่งก็ได้ประโยชน์กับตัวเองเอาไปใช้ในการสอบประมวลความรู้ และสอบวัดคุณสมบัติตอน เรียนปริญญาโท และปริญญาเอก ซึ่งปัจจุบันผมได้สำเร็จการศึกษา ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต สาขาผู้นำทางสังคม ธุรกิจ และการเมือง วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม มหาวิทยารังสิต และกำลังรอลุ้นพิธีประสาทปริญญาบัตรในต้นปี พ.ศ2565 หวังว่าคงจะไม่มีคลัสเตอร์ใหม่ๆมาทำฝันสลายนะครับ 



    นอกจากนี้ผมเป็นคนชอบดูหนัง และการ์ตูนมาก  เพราะรู้สึกว่าหนังและการ์ตูน แต่ละเรื่องให้แง่คิดและปรัชญาดีๆซ่อนไว้  ไม่ว่าจะเป็นมหากาพย์ภาพยนต์ สตาร์วอร์ มู่หลาน  Exodus   Titanic รวมถึง ดิสนีย์หลายๆเรื่อง

    ต้องบอกว่าผมเป็นคนที่ "เอ็นจอย"กับการกินมากๆ กินได้ทุกอย่างๆ ที่ชอบมากๆก็ คือ หมูกะทะ ต้มตำไก่ย่าง  Pizza  สปากเก็ตตี้  น้ำพริกกะปิ ปลาทูทอด ขนมจีน ขาหมู (ติดมันส์เยอะๆ) KFC Mk ฯลฯ ทุกอย่างที่กินได้ในสากลโลกนี้อ่ะครับกินหมดครับ 

    ชอบออกกำลังกายด้วยครับ เล่นกีฬาหลายประเภทมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นเทนนิส ฟุตบอล ปิงปอง สมัยเรียนมัธยมเล่นปิงปองจนตกรถโรงเรียนก็มีบ่อยไป ครับ แต่ที่ขอบมาที่สุดคือขี่ม้ากระโดดข้ามเครื่อกีดขวางนะครับ เล่นกีฬาชนิดนี้มา 17 ปี เต็มๆ ไว้โพสต์หน้าผมจะมาเล่าให้เพื่อนได้รู้จักถึงกีฬาชนิดนี้กันมาก
ขี้นนะคัรบ 

    บ่นซะยาวถือว่าพอเท่านี้นะครับสำหรับการแนะนำตัว ยินดีที่ได้พบกันแล้วพบกันใหม่ในโพสต์หน้านะครับ  สวัสดีครับ 

    

วันเสาร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2560

คนโขน



คนโขน ร่ายลีลา นาฏยะ
ทั้งศาสตร์ ศิลปะ มาประสิทธ์
พระ ยักษ์ ลิง ผลาดแผลง อิทธิฤทธิ์
แสนวิจิตร งดงาม ตระการตา
ที่อยู่ใต้ หัวโขน ก็หัวคน
สรรพวิชา ปะปน ด้วยตัณหา
อันโมหะ ราคะ ยากพรรณา
คือภาพลวง มายา นาฏกรรม
งามฉากหน้า แต่ฉากหลัง ไม่สวยหรู
อวิชา คู่ตัณหา พาตกต่ำ
เมื่อวิชา คู่ด้วย คุณธรรม
ดั่งผลบุญ หนุนนำ ไม่อับจน
หัวโขน ที่วางเรียง เพียงรูปลักษณ์
แม้หน้ายักษ์ ใจคน ประเสริฐผล
ที่หน้าคน ใจยักษ์ เศร้ากมล
จะดีชั่ว เพียงตน เท่านั้นเอย

สะท้อนบางสิ่งที่เป็นจริงในสังคม
 ...ฉากหน้าสวยหรู เบื้องหลังไม่ใช่
...ศิลปะไม่ใช่เรื่องของการแพ้ชนะซึ่งกันและกัน ศิลปะจะงดงามมีค่าได้เสมอถ้า
ลงมือทำด้วยใจ
 ...การใช้ความรู้ในทางที่ถูกที่ควรจะทำให้ชีวิตประสบกับความรุ่งเรื่อง ผู้ใดที่ใช้
ความรู้ในทางมิชอบ แสวงหาประโยชน์เบียดเบียนผู้อื่นจะตกต่ำ
...ดีชั่วอยู๋ที่ตัวเอง ไม่ใช่หัวโขนที่สวมใส่


วันพุธที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2560

มอบหัวใจไว้เบื้องบาท

ธ ทรงเป็น ธงชัย ไท้ปกเกศ
ไท" ประเทศ เขตคาม ได้สุขศรี
องค์พ่อหลวง ภูมิพล วงศ์จักรี
บารมี ไพศาล ทั่วอาณา
ย่ำแคว้น ทั่วแดน สองพระบาท
ดารดาษ สิ่งสรรค์ ให้หรรษา
ดั่งร่มโพธิ์ ร่มเย็น ปวงประชา
ทั่วผืนฟ้า ปกเกล้า พระเมตตา
วันนี้"พ่อ" จากไป ไม่กลับแล้ว 
พระมิ่งขวัญ ดวงแก้ว ถวิลหา
วันฟ้าดับ ลาลับ มหาราชา
ทั่วพสุธา โศกา แสนอาลัย
ขอตามรอย พ่อหลวง องค์จอมปราชญ์
มหาราช ผองไท ขอเทิดไว้
แม้เสด็จ สรวงสรรค์ สุราลัย
มอบหัวใจ ไว้เบื้องบาท ทุกชาติเอย

อย่าลืมดินที่เคยเดิน

พ่อแม่นก เลี้ยงลูกนก จนเติบใหญ่
สัจธรรม เป็นเช่นไร ใคร่ค้นหา
เฝ้าฟูมฟัก เลี้ยงดู เคียงกายา

รอวันเจ้า เติบกล้า ทะยานบิน

คน หัวนอนปลายเท้า เป็นแหล่งหลัก
ฟุ้งเฟื่อง ด้วยยศศักดิ์ และทรัพย์สิน
ปู่ ย่า หุงหา ให้อยู่กิน
อย่าลืมสิ้น พระคุณ สุดพรรณนา

จงเล่าเรียน ศึกษา จะเติบใหญ่
เช่นวิหค นกไพร เหิรเวหา
คนจะแกร่ง ด้วยการ งานนานา
ศีลธรรม ปัญญา เป็นอาจิณ

เมื่อเติบใหญ่ แกร่งกล้า อย่าโอหัง
อย่าลืมคุณ แต่หนหลัง เสียหมดสิ้น
แม้อยู่สูง เทียมฟ้า ทะยานบิน
อย่าละลืม ผืนดิน ที่เคยเดิน 


ดินสอสองบี

ธงไตรรงค์สื่อความหมาย

อันสีแดง หมายถึง ความเป็นชาติ
สีฉูดฉาด สาดแสง แรงสดใส
ให้เข้มข้น แน่แท้ เลือดศรีไทย
ไม่จากไกลมั่นไว้ ในแผ่นดิน

สีขาว สุขสกาว ศาสนา
อันความดี จรรยา ไม่สูญสิ้น
เป็นดั่งนก วิหค ผกโผบิน
ธรนินทร์ ปกครอง ด้วยศีลธรรม

สีน้ำเงิน  องค์ราชันย์ ขอเทิดไว้
ดั่งโพธิ์ทอง ผองไท  ได้สุขล้ำ
คือดวงแก้ว ส่องทาง คอยชี้นำ
ทุกเช้าค่ำ ยอเกียรติ  ในปฐพี

ธงไตรรงค์ งามล้ำ สื่อความหมาย
ผืนแผ่นดิน อยู่ได้ ด้วยศีลศรี
สามัคคี ดำรงมั่น ด้วยภักดี

สามสิ่ง สง่าศรี แห่งชาติไทย

ดินสอสองบี

เนื้อห่มเนื้อ

..ยินเสียงเพรียกเรียกขานจากลมหนาว
แสงแพรวพราวดวงดาวบนฟากฟ้า
อันความเหงาร้อยรัดในอุรา
ยามนิทรา แสนยาก ลำบากใจ
ถ้าความเหงาเหมือนหนาวที่แนบเนื้อ
ไร้เอื้อเฟื้อ ซึ่งอุ่นไอ ให้หวั่นไหว
ความแห้งผาก เย็นเยือก ที่กลางใจ
ทำอย่างไร จึงพ้นหนาว สะท้านกาย
เมื่อหนาวเนื้อก็ห่มเนื้อจึงหายหนาว
สุขสกาวอุ่นละมุนไม่รู้หาย
ร้อยไออุ่น เนื้อสู่เนื้อ ให้หนาวคลาย
ร้อยเรือนกาย แนบชิด สู่นิทรา...


ดินสอสองบี

ครู

"จนปัญญา กังขา ข้อสังสัยครูเต็มใจ ไม่ขับใส ไขกังขา
ครูปลูกสร้าง ความรู้ และวิชา
สานปัญญา แข็งแกร่ง แต่งพลัง
เมื่อเติบใหญ่เก่งกล้าอย่าดูถูก
ครูผู้ปลูกศาสตร์วิชามาแต่หลัง
ศิษย์ไร้ครูอยู่ได้ไม่จีรัง
อย่าโหหัง อวดอ้าง คิดล้างครู"


ดินสอสองบี